http://www.wannewsonline.com/

วันอังคารที่ 24 ธันวาคม 2024
ข่าวทั่วไปวาไรตี้

จัดตั้ง ‘ศูนย์พัฒนานโยบายรองรับภัยพิบัติชุมชน’ สนับสนุน ปชช. ทำแผน-วางระบบเตือนภัย ที่สอดคล้องกับบริบทพื้นที่

จัดตั้ง ‘ศูนย์พัฒนานโยบายรองรับภัยพิบัติชุมชน’
สนับสนุน ปชช. ทำแผน-วางระบบเตือนภัย
ที่สอดคล้องกับบริบทพื้นที่

รองนายกรัฐมนตรี “ประเสริฐ” ร่วมประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติครั้งแรก ประกาศสนับสนุนการจัดตั้ง “ศูนย์พัฒนาขับเคลื่อนนโยบายและรองรับภัยพิบัติชุมชน” กลไกสร้างความเข้มแข็งระดับพื้นที่ที่สอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่ พร้อมผลักดันให้เกิดแผนปฏิบัติการฯ ป้องกัน เตรียมการ ตอบโต้ และฟื้นฟู โดยเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน ยืนยันในฐานะประธาน คสช. ให้อิสระ กก. ทำงานในฐานะที่ปรึกษาด้านสุขภาพ-สุขภาวะของ ครม. อย่างเต็มที่

ที่ประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) ครั้งที่ 4/2567 เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2567 ซึ่งมี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธาน คสช. เป็นประธานการประชุมครั้งแรก มีมติรับทราบ “บทบาทและความร่วมมือในการรับมือภัยพิบัติตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ” ที่สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) และองค์กรภาคีเครือข่าย ร่วมกันขับเคลื่อนเพื่อคลี่คลายบรรเทาทุกข์ของประชาชน ทั้งในช่วงก่อนน้ำท่วม ระหว่างน้ำท่วม และหลังน้ำลด โดยหนึ่งในนั้น คือการสร้างเครือข่ายภัยพิบัติแนวราบด้วยการจัดตั้ง “ศูนย์พัฒนาขับเคลื่อนนโยบายและรองรับภัยพิบัติชุมชน” ขึ้นในระดับชุมชน


สำหรับศูนย์พัฒนาขับเคลื่อนนโยบายและรองรับภัยพิบัติชุมชน จะมีประชาชนเป็นศูนย์กลางและพื้นที่เป็นฐาน ทำหน้าที่จัดการองค์ความรู้ พัฒนาระบบปฏิบัติการที่สอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่ จัดทำแผนปฏิบัติการรองรับภัยพิบัติ ตลอดจนเป็นสถานฝึกอบรมชุมชน และสนับสนุนการสื่อสารสังคม สร้างระบบแจ้งเตือนภัยที่เชื่อมโยงกับชุมชน โดยบูรณาการภาคีเครือข่ายหลายภาคส่วนเข้ามาสานพลังการทำงานร่วมกัน อาทิ หน่วยงานด้านสาธารณสุข อาสาสมัครป้องกันภัยพิบัติ หน่วยงานท้องถิ่น และนักวิชาการ

นายประเสริฐ เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่จะคลี่คลายลง และเข้าสู่ระยะการฟื้นฟูแล้ว แต่รัฐบาลยังคงติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และให้ความสำคัญกับการป้องกันภัยพิบัติอย่างยั่งยืน ซึ่งนอกเหนือจากกลไกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) รวมถึงหน่วยราชการระดับกระทรวง กรม สำนักงานต่างๆ ที่ทำงานกันอย่างเข้มข้นแล้ว กลไกความร่วมมือและกระบวนการการมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่างๆ ถือเป็นพลังสำคัญในการรับมืออุทกภัยอย่างมีประสิทธิภาพ


ทั้งนี้ ที่ผ่านมาประเทศไทยมีมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไม่น้อยกว่า 5 มติ ซึ่งรัฐบาลก็ได้เดินหน้าขับเคลื่อนผ่านการมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อมติต่างๆ และล่าสุดการจัดตั้ง “ศูนย์พัฒนาขับเคลื่อนนโยบายและรองรับภัยพิบัติชุมชน” อันเป็นผลจากการทำงานของ สช. ร่วมกับภาคีเครือข่าย ถือเป็นเครื่องมือระดับพื้นที่ที่จะช่วยหนุนเสริมมาตรการของรัฐบาล ทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและมีความพร้อมในการรับมือกับภัยพิบัติ ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนให้เกิดรูปธรรมการทำงานอย่างเต็มที่ เพราะศูนย์นี้ จะมีส่วนสำคัญในการปฏิบัติการป้องกัน เตรียมการ ตอบโต้ และฟื้นฟูภัยพิบัติ มีการจัดทำแผนปฏิบัติการ โดยหัวใจคือเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในทุกขั้น ตลอดจนจะมีการสื่อสาร และฝึกซ้อมการรับมือภัยพิบัติเป็นประจำ เพื่อให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่มีความพร้อมรับมือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน


นอกจากนี้ เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ประเทศไทยมี พ.ร.บ. สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ซึ่งบัญญัติให้มีการจัดตั้งหน่วยงานองค์กรขึ้นมาทำหน้าที่สานพลัง ช่วยเชื่อมโยงทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมแก้ไขปัญหาต่างๆ ผ่านกระบวนการการมีส่วนร่วม นั่นก็คือ สช. ที่ได้ขับเคลื่อนงานเรื่องบรรเทาอุทกภัยและมีส่วนในการจัดทำนโยบายสาธารณะในการรับมือภัยพิบัติของชาติ โดยเฉพาะในสถานการณ์อุทกภัยปี 2567 สช. ร่วมกับภาคีเครือข่ายในการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย 3 ระยะ คือระยะเร่งด่วน ระยะฟื้นฟูองค์รวม และระยะสุดท้าย คือการสร้างความเข้มแข็งยั่งยืน และเพื่อติดตามสถานการณ์และประสานการจัดการภัยพิบัติอุทกภัย ตลอดจนสนับสนุนบทบาทสมัชชาสุขภาพจังหวัดให้มีส่วนร่วม รวมทั้งให้ความช่วยเหลือภาคีเครือข่ายที่ประสบภัยให้มีประสิทธิภาพ จึงมีการแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานและสนับสนุนการจัดการภัยพิบัติอุทกภัย (EOC สช.) ขึ้นมาทำหน้าที่นี้ด้วย

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ในวันนี้รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้เข้าร่วมการประชุม คสช. ในฐานะประธาน คสช. เป็นนัดแรก เพราะ คสช. ถือเป็นคณะกรรมการด้านสุขภาพและสุขภาวะที่สำคัญที่สุดชุดหนึ่งของประเทศไทย เปรียบได้กับคลังสมองด้านสุขภาพและสุขภาวะของประเทศไทย มีคณะกรรมการจากทุกภาคส่วน และมีเครื่องมือภายใต้ พ.ร.บ. สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ที่ช่วยขับเคลื่อนงานได้จริง ฉะนั้นจึงขอยืนยันว่า พร้อมสนับสนุนการทำงาน และอยากให้กรรมการทุกท่านได้ทำหน้าที่อย่างมีอิสระเต็มที่ในการให้ข้อเสนอแนะหรือคำปรึกษาแก่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
นอกจากการรับทราบ “บทบาทและความร่วมมือในการรับมือภัยพิบัติตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ” แล้ว ที่ประชุม คสช. ครั้งที่ 4/2567 ยังได้รับทราบและพิจารณาระเบียบวาระที่เกี่ยวข้องกับสุขภาวะของประชาชนในอีกหลายประเด็น อาทิ ข้อเสนอเชิงนโยบาย 5×5 ฝ่าวิกฤตประชากร, การจัดทำรายงานสถานการณ์ระบบสุขภาพไทย, รายงานนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพไทย ประจำปี 2567, การจัดประชุมวิชาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ (HIA Forum) พ.ศ. 2567, การขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็น การปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า, การจัดสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็นว่าด้วย การสานพลังสร้างสภาวะแวดล้อมทางกายภาพและสังคมเพื่อลดโรคไม่ติดต่อ และ การดำเนินงานของคณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน (กขป.)

///////////////////////

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " จัดตั้ง ‘ศูนย์พัฒนานโยบายรองรับภัยพิบัติชุมชน’ สนับสนุน ปชช. ทำแผน-วางระบบเตือนภัย ที่สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ "

ข่าวทั่วไปวาไรตี้ ล่าสุด

เหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบูรณ์ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราธิดา

เหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบูรณ์ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราธิดา

อัพเดทล่าสุด

เหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบูรณ์ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราธิดา

เหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบูรณ์ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราธิดา

3 ธันวาคม 2024